วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557



ฟ้าทะลายโจร
ต้านหวัด ๒๐๐๙

คำนำเรียบเรียง
          ไข้หวัด ๒๐๐๙ แทบจะทำให้ผู้คนเลิกไว้ใจกันโดยสิ้นเชิง! นั่นเพราะเราไม่อาจรู้เลยว่า... ท่ามกลาง ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบกายเรา จะมีใครพบเชื้อไวรัสชนิดนี้ติดตัวมาด้วย แล้วปล่อยออกมาด้วย  แล้วปล่อยออกมาทางลมหายใจจนฟุ้งกระจายไปทั่วบ้างหรือไม่! เชื้อโรคก็ตัวเก่า แต่พอปรับโฉมใหม่ก็เล่นเอาวุ่นไปทั่วทุกมุมโลก...ช่วงที่กำลังรอการคิดค้น "ยาแผนปัจจุบัน" มาสู้โรควัดพันธุ์ใหม่นี้คง"ถ่วงเวลา"ได้ดีที่สุดเพียงดูแล"สุขภาพภายใน" ของตนให้ดีที่สุด "ยาพื้นบ้าน" ตำรับคุณย่าคุณยาย ศึกในปี ๒๐๐๙ นี้แม้จะใหญ่หลวงนัก...แต่ "กองทัพสมุนไพร" ก็มีอยู่ทั่วโลกทุกท้องถิ่นในบ้านเราเช่นกัน
คงต้องสู้กันสักตั้ง 

ด้วยความปรารถนาดี
สุวิมล   โต่นวุธ




 ทัพหน้า...เวลาของ"สามทหารเสือ"
                ศัตรูของมนุษยชาติดูเหมือนจะร้ายกาจกว่าที่คิด...
                แต่ท่ามกลางวิกฤติโรคภัยที่เป็นเสมือนนาทีทองของผู้ค้า "หน้ากากอนามัย" และ "น้ำยาฆ่าเชื้อโรค" นี้ ก็ยังมีข่าวที่ทำให้ประชาชนทั่วไปได้โลงใจอยู่บ้าง...
                เมื่อกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ว่ามีสมุนไพรไทยอยู่ ๓ ชนิด ที่มีฤทธิ์ไม่แพ้ยารักษาไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ จากต่างประเทศ
                ซึ่งก็คือ ฟ้าทะลายโจร กระเทียม และ ขิง...โดยหากรับประทานสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำจะสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ ได้
                นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลการระบาดใหญ่ของเชื้อไข้หวัดหมูซึ่งระบาดอยู่ในประเทศแถบยุโรปเมื่อ ๙๐ ปีที่แล้ว (เกิดจากไวรัส H1N1) พบว่าทั้งฟ้าทะลายโจร ขิง และกระเทียม ล้วนสามารถช่วยรักษาอาการของผู้ป่วย และช่วยลดระยะเวลาเป็นหวัดไม่ให้เรื้อรังได้ โดยต้องรับประทานทันทีที่เป็นหวัด
                ก็เป็นอันว่า...ถึงเวลาของทัพหน้า ที่นำโดยแม่ทัพ "สามทหารเสือ" อย่าง ฟ้าทะลายโจร ขิง และกระเทียม...จะต้องออกศึกแล้ว

ฟ้าทะลายโจร
                ในบรรดาสมุนไพรต้านไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ ทั้งหมด ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีความโดดเด่นที่สุด และ"ฮ็อต"ที่สุดในขณะนี้ เรียกว่า "สมุนไพรแห่งปี" เลยก็ว่าได้
                ฟ้าทะลายโจรเป็นไม้ล้มลุกซึ่งอยู่ในทำเนียบสมุนไพรไทยมาเนิ่นนานแม้แต่ในการแพทย์แผนจีนก็ได้ยกย่องสมุนไพรชนิดนี้เป็นยาตำราหลวงที่มีสรรพคุณโดดเด่นมากตัวหนึ่ง เนื่องจากเป็นตัวยาที่แม้จะใช้เพียงเดี่ยวๆก็สามารถออกฤทธิ์แรงพอที่จะรักษาโรคได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในสมุนไพรตัวอื่น
                ฟ้าทะลายโจรมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามท้องถิ่นต่างๆ เช่นฟ้าทะลายโจร,น้ำลายพังพอน,ยากันงู,ฟ้าลาง,เมฆทะลาย,ฟ้าสะท้าน,สามสิบดี,ดีปังฮี (จีน)

สารสำคัญในฟ้าทะลายโจร

                ในฟ้าทะลายโจรมีตัวยาที่เป็นสมุนไพรอยู่ทุกส่วนของต้น ทั้งราก ใบ และลำต้น ส่วนเหนือดินฟ้าทะลายโจร มีสารสำคัญจำพวกไดเทอร์ปีนแลคโตน (Diterpene Lactones) หลายชนิด ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตให้รวดเร็วขึ้น

                ผลจากการศึกษาทางเภสัชวิทยาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลองพบว่าสารสกัดหรือสารสำคัญต่างๆ ในฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ทางยาหลายประการ ดังนี้

                - ลดการบีบหรือหดเกร็งตัวของทางเดินอาหาร

                - ลดอาการท้องเสีย โดยทำให้การสูญเสียน้ำทางลำไส้จากสารพิษของแบคทีเรียลดลง

                - ลดไข้หรือต้านการอักเสบ

                - กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

                - ป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด

                - ต้านอนุมูลอิสระ

                - ลดน้ำตาลในเลือด

                อย่างไรก็ตาม หากเก็บสมุนไพรฟ้าทะลายโจรไว้นานเป็นปี สารสำคัญต่างๆ ที่มีในฟ้าทะลายโจรจะลดลงไปประมาณ ๒๕%

  

สรรพคุณทางยาของฟ้าทะลายโจร

                ฟ้าทะลายโจรเป็นตัวยาเก่าแก่ที่ใช่รักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยมีการใช่ฟ้าทะลายโจรในตำรับยาเก่าแก่ของประเทศจีน สำหรับแก้ฝี แก้อักเสบ และรักษาโรคบิด ต่อมาเมื่อการแพทย์มีการเจริญขึ้น จึงมีการวิจัยคุณสมบัติด้านยาของฟ้าทะลายโจรอย่างจริงจัง และพบตัวยาที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆมากมาย อาทิ

                รักษาอาการไข้เจ็บคอ...โรงพยาบาลชุมชนบางแห่งใช่ฟ้าทะลายโจรรักษาไข้เจ็บคอ และพบว่าสามารถช่วยผู้ป่วยหายจากไข้ และอาการเจ็บคอได้ดีเป็นที่น่าพอใจ

                บรรเทาอาการหวัด...ผลจากการทดลองให้เม็ดยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด พบว่าวันที่สองหลังได้รับยา อาการต่างๆที่เกิดจากโรคหวัด เช่น อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะ เป็นต้น ได้ลดความรุนแรงลง

                ไข้ไทฟอยด์...ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรสามารถทำลายเชื้อไทฟอยด์ที่ฝังอยู่ในเนื้อเยื้อของต่อมน้ำเหลือง ในผนังลำไส้เล็ก ทำให้ลำไส้ที่เป็นอัมพาตอยู่เดิมเริ่มทำงาน และฟ้าทะลายโจรยังช่วยเร่งการสร้างน้ำดีในตับเพื่อช่วยในการย่อยอาหารได้อีกด้วย

                งูสวัด...เนื่องจากโรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัส ดังนั้นยาเม็ดที่สกัดจากฟ้าทะลายโจร จึงช่วยรักษางูสวัดให้หายได้ และยังช่วยไม่ให้โรคนี้กลับมาเป็นได้อีก

                ริดสีดวงทวาร...ยาเม็ดจากฟ้าทะลายโจรช่วยแก้อาการป้วดถ่วงและมีเลือดออกของโรคริดสีดวงทวาร และทำให้ขับถ่ายได้ตามปกติ

                นอกจากนี้แล้ว ยังมีการนำสมุนไพรจากฟ้าทะลายโจรมาใช้ในผู้ที่ป่วยด้วยโรคตับอีกด้วย โดยใช่ช่วงหลังจากฟื้นไข้ร่วมกับยาบำรุง เพื่อบรรเทาอาการของโรค

 

การนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางยา

                ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีรสขมมาก นับเป็นยาที่ตรงตามมาตรฐานสำนวนไทย "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" ไม่ผิดเพี้ยน จึงเป็นหนึ่งในยาที่ไม่พึงประสงค์ของหลายๆคน อย่างไรก็ตาม มีการนำฟ้าทะลายโจรมาทำเป็นยาหลากหลายรูปแบบ น่าจ่ะวยผู้ที่ทานยายากให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง

                ถึง"เลือกไม่ได้" แต่อย่างน้อยก็ยัง"ได้เลือก"น่ะ

                ยาต้ม...ใช้ใบและกิ่งสดล้างสะอาด สับเป็นท่อนสั้นๆประมาณ ๑ กำมือ ต้มกับน้ำสะอาด ๑๐-๑๕ นาที ดื่มก่อนอาหารวันละ ๓ ครั้ง แก้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย (ถ้าใช้แก้บิด ให้ใช้ ๑-๒ กำมือ)

                ยาลูกกลอน...เป็นยาเม็ดที่ปั้นผสมกับน้ำผึ้ง โดยบดใบและกิ่งฟ้าทะลายโจร (ล้างสะอาดและผึ่งลมจนแห้งแล้ว) จนเป็นผงละเอียด นำมาผสมกันน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย นำไปผึ่งให้แห้ง เก็บในกระปุกปิดฝาให้มิดชิด

                ยาแคปซูล...ใช้ผงที่บดจากใบและลำต้นฟ้าทะลายโจรบรรจุลงในแคปซูล เก็บในกระปุกที่มีฝาปิดมิดชิด (รูปแบบนี้นิยมมากเพราะจะไม่มีรสขมเลย)

                ยาดองเหล้า...เป็นยาที่ได้จากการดองเหล้าโรงกับใบแห้งของฟ้าทะลายโจร (ขยำเป็นชิ้นเล็กๆ) โดยดองเอาไว้ในขวดที่ปิดสนิทนานวัน (ระหว่างนี้ให้คอยเขย่าขวดหรือคนยาวันละครั้ง) แล้วกรองเอาแต่น้ำเก็บไว้ในขวดที่สะอาดและปิดมิดชิด

                ยาบด ยาพอก...ใช่ใบฟ้าทะลายโจรที่ค่อนข้างแก่นำมาตำหรือบดในครกบดยา ผสมเกลือเล็กน้อย เติมเหล้าเล็กน้อย น้ำเปล่าเล็กน้อย คนให้เข้ากันดี รินเอาน้ำดื่ม ส่วนกากที่เหลือเอาไว้พอกแผล หรือพอกฝี (พันแผลที่พอกด้วยผ้าสะอาด)

                ยาผงใช่สูดดม...ใช้คล้ายกับยานัตถุ์ เพียงแต่ให้สูดเอาควันที่พุ้งออกจากผงของฟ้าทะลายโจรเข้าไปที่คอโดยตรง แทนที่จะใช้วิธีเป่าเข้าทางจมูกเหมือนยานัตถุ์ ผงยาซึ่งเข้าไปติดอยู่ที่คอฤทธิ์จะช่วยลดเสมหะ และแก้เจ็บคอได้ดี

               

ฟ้าทะลายโจรกับไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙

                การออกฤทธิ์...ช่วยรักษาบรรเทาอาการหวัด และสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

                อาวุธคู่กายของแม่ทัพใหญ่อย่างฟ้าทะลายโจรคือสารสำคัญมากมายที่มีฤทธิ์เป็นยา ซึ่งช่วยป้องกันและรักษาโรคได้หลายชนิด ซึ่งสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙...พบว่าฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเชื้อที่ว่านี้อย่างชัดเจน กล่าวคือ

                ผลต่อเชื้อไวรัส...โรคไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ เกิดจากเชื้อไวรัส ซ่งฟ้าทะลายโจรก็มีฤทธิ์ในการลดการอักเสบของเซลล์ที่มาจากเชื้อไวรัสป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสไปเกาะที่ผนังเซลล์ หรือทำให้เกาะติดผนังเซลล์ได้น้อยลง และยังช่วยยับยั้งโปรตีนในเชื้อไวรัสไม่ให้แพร่กระจายได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าสมุนไพรอื่นๆ
                จากการศึกษาในต่างประเทศโดยศึกษาในเด็กนักเรียน ๑๐๐ คน ให้รับประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรวันละเม็ดติดต่อกันเป็นระยะเวลา ๓ เดือนพบว่าเด็กที่ได้รับประทานยาเป็นหวัดน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้รับประทานยา ๒ เท่า ทั้งยังลดอาการปวดเมื่อย ไอ จามได้ด้วย
                สำหรับผู้ที่เป็นหวัดบ่อยๆร้อนบ่อยๆเนื่องจากร่างการพักผ่อนไม่เพียงพอจะเกิดภาวะภูมิต้านทานอ่อนลง การรับประทานสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่เป็นหวัดง่าย อาการร้อนในหายไป และยังป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด

ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรจากฟ้าทะลายโจร
                - ห้ามใช่กับผู้ป่วยที่มีความดันต่ำและมีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย หรือหากรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย เวียนศรีษะ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆควรหยุดยาทันที
                - ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกินไป เนื่องจากฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรจะทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในกระเพาะอาหารมากเกินไป
                - ห้ามใช่ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในผู้ป่วยกรณีต่างๆต่อไปนี้...เจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Sterptococcus group A...ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อ Sterptococcus group A...ผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติก...ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง
                - หากผู้ป่วยมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ควรหยุดใช้ยาฟ้าทะลายโจร
                - หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
                - หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน ๓ วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์
                - ไม่ควรใช้ยาฟ้าทะลายโจรในสตรีมรครรภ์

 ค.ศ. ๒๐๐๙
กับวิกฤติครั้งใหม่ของมนุษยชาติ

       เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๐-๒๕๔๑ ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีโอกาสทำความรู้จักกับโรคร้ายที่ชื่อ  “ไข้หวัดนก   ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์  H5N1  ที่เคยมีการระบาดในโลกเรามาก่อนหน้านี้แล้ว และการระบาดครั้งนั้นก่อทำให้ผู้คนเกิดอาการ ผวาสัตว์ปีก  อยู่นานพอสมควร
       ความทรงจำเกี่ยวกับไข้หวัดนกยังไม่ทันจาง มาถึง พ.ศ. นี้ มนุษยชาติก็จำต้องเผเชิญหน้ากับ อริใหม่ อีกครั้ง...
       ไม่ใช่ใครที่ไหน ญาติสนิท ของเจ้า H5N1 ที่มีชื่อว่า H1N1 นั้นเอง !

หลากชื่อ...แต่ล้วนคือ H1N1
       คนไข้รายแรกที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อนี้  อยู่ที่ประเทศเม็กซิโก ทำให้เป็นที่มาของชื่อ...หวัดเม็กซิโก
หลังจากนั้น เชื้อนี้ก็ถูกเรียกชื่อไปต่างๆ นานา เช่น...ไข้หวัดใหญ่ เอ เอช 1 เอ็น 1 ( lnuenza A(H1N1))...
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มาจาก (Swine-Origin Virus)...ไขหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช 1 เอ็น 1 (Novel lnuenza H1N1)...ไข้หวัดใหญ่ เอ เอช 1 เอ็น 1 วี ( lnuenza(H1N1)V)
      เพื่อหยุดความสับสนในการเรียกชื่อโรคนี้ ล่าสุดองค์การอนามัยโลก องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (EIO) จึงตกลงร่วมกันให้เรียกโรคนี้ Wโรคระบาดใหญ่ H1N1 2009 (pandemic H1N1 2009)
      แต่ไม่ว่าที่ไหนจะเรียกเชื่อไวรัสชนิดนี้ในชื่ออะไร คนไทยเราคุ้นเคยกับมันแล้วในชื่อ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
      แล้วก็ต้องทอนชื่อลงให้เหลือสั้นๆ ว่า ไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙
ความร้ายกาจของไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙
      จากผลการวิจัยของคณะผู้วิจัยนานาชาตินำโดย ดร. โยชิฮิโร คาวา โอกะ  จากมหาลัยวิสคอนชินเมดิสัน ระบุว่าเชื่อไวรัสตัวนี้มีความรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยคิดกัน เพราะในขณะที่เชื้อไวรัสไข้หวัดตามฤดูกาลมักจะติดเชื้อเฉพาะที่เซลล์ของระบบทางเดินหายใจส่วนบน แต่เชื้อไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ กลับพุ่งเข้าเล่นงานที่เซลล์ปอดโดยตรง!ป็นผลให้ปอดบวมรุนแรงจนถึงตายได้โดยม่ต้องมีเชื้ออื่นมาเสริมไม่ต้องมีตัวช่วย!
     นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อไวรัส ๒๐๐๙ สามารถทำซ้ำเพิ่มจำนวนตัวภายในระบบทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่าไข้หวัดตามฤดูกาลเป็นอย่างมาก และทำให้เกิดแผลรุนแรงสาหัสภายในปอด
     อาการของผู้ป่วยจะคล้ายกับผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา แต่รุนแรงและรวดเร็วกว่ามาก คือ มีไข้สูง ราว ๓๘ องศาซลเซียส ปวดเมื่อยตามร่างกาย ตามข้อ ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปอดบวม เบื่ออาหารบางรายอาจท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จากนั้นเชื่อจะแพร่เข้าสู่เลือดทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการทรงตัวผิดปกติ เดิมโซเซเหมือนคนเมาสุรา ทั้งอาจสูญเสียการได้ยินจนถึงขั้นหูหนวกได้ และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
     ส่วนโรคแทรกซ้อนเช่น มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดอักเสบ หัวใจวาย และอาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งหากผู้ติดเชื่อไข้หวัดใหญ่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง (เช่น เด็กเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้วครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ติดสารเสพติด เป็นต้น) ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้


ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=NZ8XBS6eMyk


แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- http://tay2014.allblogthai.com
- http://agriman.doae.go.th
- http://www.rspg.or.th
- http://www.manager.co.th
- www.gpo.or.th
- http://mail.vcharkarn.com
- http://www.medplant.mahidol.ac.th
- http://www.salasamunprai.com
- th.wikipedia.org